วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

10 อันดับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงสุดและต่ำสุด

10 อันดับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงสุดและต่ำสุด


Economist Intelligence Unit ของค่ายนิตยสารรายสัปดาห์ The Economist
จะทำรายงานสำรวจค่าครองชีพของโลก (The Worldwide Cost of Living)
เป็นประจำ 2 ครั้งต่อปี โดยการเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการต่างๆ
ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก แล้วทำเป็นดัชนีเปรียบเทียบ ใช้ราคาสินค้าและบริการ
ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นราคาพื้นฐาน (ตั้งดัชนีฐานไว้ที่ 100)

และรายงานฉบับล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ ปี2012 สรุปได้ดังนี้
10 อันดับประเทศที่มีค่าครองชีพสูงสุด


เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ติดอันดับที่ 1 ที่มีค่าครองชีพสูงที่สุด
ถ้าเทียบราคากับราคาสินค้ากับเมืองนิวยอร์ก เช่นสมมติเบอร์เกอร์ที่นิวยอร์ค
ขายราคา 100 ดอลล่าร์ แต่ที่เมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ขายที่ราคา 170
ดอลล่าร์เป็นต้น (ขอสมมติเป็นดอลล่าร์นะครับ เพราะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน
กลางที่รายงานสำรวจใช้ แต่ไม่ใช่ราคาจริงๆ ของสินค้านะครับ)

อันดับที่ 2 คือเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมเคยติดอันดับแรกมาหลายปี
ถ้าสังเกตจะพบว่ามีประเทศในยุโรปติดอันดับต้นๆ เยอะมาก เช่นฝรั่งเศล
นอร์เวย์ เยอรมนี แม้ว่าเศรษฐกิจในประชาคมยุโรปกำลังย่ำแย่
และแม้กระทั่งในญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจก็ยังไม่ค่อยจะดีนัก
การเปรียบเทียบราคาที่ทำให้ค่าครองชีพสูง มาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ของประเทศนั้นๆ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก 

10 อันดับประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำสุด

สามอันดับสุดท้ายที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลก เรียงจากต่ำที่สุดขึ้นมา
ได้แก่เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน, เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
และเมืองเตหราน ประเทศอิหร่าน
ค่าครองชีพที่น้อยสะท้อนถึงค่าจ้างแรงงานที่น้อยที่สุดได้เช่นเดียวกัน
แรงงานในประเทศอินเดียจึงเป็นที่ต้องการมากในตลาดแรงงานแบบOutsource

แหล่งที่มาของข้อมูลมาจาก http://www.eiu.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น