สมเด็จพระสุริโยทัย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระสุริโยทัย | |
---|---|
พระอิสริยยศ | พระอัครมเหสีของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
สวรรคต | 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2092 |
พระราชสวามี | สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ |
พระราชโอรส/ธิดา | พระราเมศวร พระมหินทร์ พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระบรมดิลก พระเทพกษัตรี |
เนื้อหา |
พระราชประวัติ
สมเด็จพระสุริโยทัยสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์พระร่วง[ต้องการอ้างอิง] ดำรงตำแหน่งพระอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ในขณะที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาต่อจากขุนวรวงศาธิราชได้เพียง 7 เดือน เมื่อ พ.ศ. 2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และมหาอุปราชาบุเรงนองยกกองทัพพม่าเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก โดยผ่านมาทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรีและ ตั้งค่ายล้อมพระนคร การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของ สมเด็จพระศรีสุริโยไท ซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวางพระเจ้าแปรด้วยเกรงว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระราชสวามี จะเป็นอันตราย จนถูกพระแสงของ้าวฟันพระอังสาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง เพื่อปกป้องพระราชสวามีไว้ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ปีจุลศักราช 910 ตรงกับวันเดือนปีทางสุริยคติ คือ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2092 เมื่อสงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ทรงปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลงพระศพขึ้นเป็นวัด ขนานนามว่า วัดสบสวรรค์ หรือวัดสวนหลวงสบสวรรค์พระวีรกรรม
-
ดูบทความหลักที่ สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้
พระราชโอรสและพระราชธิดา
สมเด็จพระสุริโยทัย มีพระราชโอรส-พระราชธิดา 5 พระองค์ ซึ่งน่าจะเรียงลำดับดังนี้- พระราเมศวร พระราชโอรสองค์โต ถูกจับเป็นองค์ประกันแก่พม่า และสิ้นพระชนม์ระหว่างไปหงสาวดี
- พระมหินทร์ พระราชโอรสองค์รอง ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระมหินทราธิราช กษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ใน พ.ศ. 2112
- พระสวัสดิราช พระราชธิดา ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระวิสุทธิกษัตรีย์ อัครมเหสีในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและเป็นพระชนนีของพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ
- พระบรมดิลก พระราชธิดา เสียพระชนม์ชีพพร้อมพระมารดาในสงครามคราวเสียพระสุริโยไท
- พระเทพกษัตรี พระราชธิดา ภายหลังถูกส่งตัวถวายแด่พระไชยเชษฐาแห่งอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งระหว่างการเดินทางถึงชายแดนสยามประเทศพระนางถูกพระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์แห่งพม่าทำการชิงตัวไปยังกรุงหงสาวดี
อนุสาวรีย์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ได้มีโครงการก่อสร้าง พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ในบริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระสุริโยทัยและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่มีพระชนมายุครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2535
ละครโทรทัศน์และภาพยนตร์
ได้มีการนำพระราชประวัติของสมเด็จพระสุริโยทัยมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ในปี พ.ศ. 2535 ทางช่อง 3 โดยมี กาญจนา จินดาวัฒน์ รับบทเป็นสมเด็จพระสุริโยทัย และภาพยนตร์จากการกำกับของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ในปี พ.ศ. 2544 โดยมี หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี รับบทเดียวกันภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่อง "สุริโยไท" ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2544 เนื้อหากล่าวถึงตั้งแต่การสวรรคตของสมเด็จพระไชยราชาธิราช เหตุการณ์ซึ่งนำไปสู่สงครามและยุทธหัตถี และนำไปสู่การสวรรคตของสมเด็จพระสุริโยทัย ภาพยนตร์ใช้ต้นทุนสร้าง 550 ล้านบาท
ข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์
ถึงแม้ว่าจะมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเฉลิมพระเกียรติพระองค์ขึ้นหลายแห่ง ในประเทศไทย แต่ตัวตนและความเสียสละของพระองค์ยังเป็นหัวข้อที่ยังเป็นที่โต้เถียงกัน อยู่ เนื่องจากความจริงที่ว่าพระนามของพระองค์มิได้ถูกกล่าวถึงหรือบันทึกไว้ใน ประวัติศาสตร์พม่าเลย[7] และข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตของพระองค์ถูกคัดมาจากบางตอนของจดหมาย เหตุกรุงศรีอยุธยาและการบรรยายของนักสำรวจชาวโปรตุเกส โดมิงกู เซชัส (Domingo Seixas)[8]
สมเด็จพระสุริโยไท หรือ พระสุริโยไท
วีรสรีไทยสมัยอยุธยา เป็นอัครมเหสีใน
สมเด็จพระหาจักรพรรดิหรือพระเฑียรราชา พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๕
ของกรุงศรีอยุธยาราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระสุริโยไท ตามพงศาวดารหลวงประเสริฐฯ
กล่าวเพียงแค่เป็นอัครมเหสีผู้เสียสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องพระราชสวามี
ในสงครามพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ในปี พ.ศ. ๒๐๙๑ พงศาวดารบางฉบับ กล่าวว่า
พระสุริโยไท เป็นเจ้านายเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย
โดยมิได้กล่าวรายละเอียดใดมากกว่านี้
พระราชประวัติ
พระราชประวัติของสมเด็จพระ
สุริโยไทยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
แต่สันนิษฐานว่าสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์สุโขทัย
ซึ่งดำรงตำแหน่งพระอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ในขณะที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาต่อจากขุนวรวงศาธิราชได้เพียง ๗ เดือน
เมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๑
พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และพระมหาอุปราชาบุเรงนองยกกองทัพพม่า-รามัญเข้ามาล้อม
กรุงศรีอยุธยาครั้งแรก โดยผ่านมาทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์
จังหวัดกาญจนบุรีและตั้งค่ายล้อมพระนคร
การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของ สมเด็จพระศรีสุริโยไท
ซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวางพระเจ้าแปรด้วยเกรงว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
พระราชสวามี จะเป็นอันตราย
จนถูกพระแสงของ้าวฟันพระอังสาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง
เพื่อปกป้องพระราชสวามีไว้ เมื่อสงครามยุติลง
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ทรงปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลงพระศพขึ้น
เป็นวัด ขนาน - นามว่า "วัดสบสวรรค์" (หรือวัดสวนหลวงสบสวรรค์)
|
พระราชโอรสและพระราชธิดา
สมเด็จพระสุริโยไท มีพระราชโอรส-พระราชธิดา ๕ พระองค์ ซึ่งน่าจะเรียงลำดับดังนี้
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕
ได้มีการก่อสร้าง พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยไท
ที่บริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เพื่อเป็นพระอนุสาวรีย์ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสุริโยไท
|
วีรกรรม
ความเป็นมาของสงคราม
ระหว่างไทยกับพม่าในครั้งนั้น
มีเหตุการณ์สืบเนื่องมาจากพระเจ้าหงสาวดีตะเบงชะเวตี้
ได้รู้ข่าวกรุงศรีอยุธยาเกิดเหตุวุ่นวาย
เมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราช
เกิดการแย่งชิงราชสมบัติระหว่างพระแก้วฟ้า พระราชโอรส และขุนวรวงศาธิราช
และอัญเชิญพระราชอนุชาต่างพระชนนีในสมเด็จพระไชยราชาธิราชขึ้นเสวยราชสมบัติ
ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ”
เมื่อกองทัพพระเจ้ากรุงหงสาวดียกมาถึงกรุงศรีอยุธยา
แล้วกองทัพกรุงศรีอยุธยาได้ยกออกไป
กองทัพฝ่ายกรุงศรีอยุธยาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งมีสมเด็จพระสุริโยไท
พระอัครมเหสี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสองพระองค์
เสด็จมาในทัพด้วยนี้ ได้ปะทะกับกองทัพพระเจ้าแปร
ซึ่งเป็นทัพหน้าของพระเจ้ากรุงหงสาวดี ได้ทรงเข้าชนช้างกัน
ความในพงศาวดารไทยรบพม่าพรรณนาไว้ว่า
“...ช้างพระที่นั่งสมเด็จ
พระมหาจักรพรรดิเสียที สมเด็จพระสุริโยไทเกรงพระราชสวามีจะเป็นอันตราย
จึงขับช้างทรงเข้าขวางช้างข้าศึกไว้ พระเจ้าแปรได้ทีฟันสมเด็จพระสุริโยไท
ด้วยสำคัญว่าเป็นชายสิ้นพระชนม์ซบลงกับคอช้าง…”
|
พระราชานุสาวรีย์สุริโยทัย เป็นพระอนุสาวรีย์ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสุริโยทัย วีรสตรีไทยสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่บริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ |
เจดีย์พระศรีสุริโยทัย เจดีย์พระศรีสุริโยทัย อยู่ในเกาะเมืองด้านทิศตะวันตก อยู่ติดกับสำนักงานโบราณคดี และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 3 ถนนอู่ทอง อ. พระนครศรีอยุธยา จ. อยุธยา |
การ
สู้รบหลังจากสมเด็จพระสุริโยไทสิ้นพระชนม์แล้ว
พระราเมศวรกับพระมหินทราธิราชพระราชโอรส
ทรงขับช้างเข้าต่อสู้กับพระเจ้าแปรและกันพระศพสมเด็จพระราชชนนีกลับเข้าพระ
นคร โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญประดิษฐานไว้ในสวนหลวงเป็นการชั่วคราว
จนเมื่อกองทัพพระเจ้าหงสาวดีได้ข่าวว่า กองทัพหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย
อันมีสมเด็จพระมหาธรรมราชา นำกำลังยกลงมาช่วยกรุงศรีอยุธยา
ประจวบกับเสบียงอาหารเริ่มขาดแคลนลง จึงเลิกทัพกลับไปกรุงหงสาวดี
ส่วนการพระศพสมเด็จพระสุริโยไทนั้นเมื่อเสร็จศึกสงครามแล้วโปรดให้ตั้งการ
พระราชพิธีพระราชทานเพลิง ณ สวนหลวง
และให้สถาปนาที่พระราชทานเพลิงเป็นพระอารามเพื่ออุทิศ
พระราชกุศลพระราชทาน แด่สมเด็จพระอัครมเหสี ประกอบด้วยพระเจดีย์ พระวิหาร
แล้วพระราชทานนามพระอารามอันเป็นพระราชานุสรณ์แห่งสมเด็จพระสุริโยไทแห่งนี้
ว่า วัดสบสวรรค์ ในปัจจุบันชื่อวัดสวนหลวงสบสวรรค์
โดย...จิรภัทร วรรัตน์ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น