วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

หากคุณอยากเริ่มเล่น สเก็ตบอร์ด


   หากคุณอยากเริ่มเล่น สเก็ตบอร์ด
Sk8 เป็นคำย่อของ SKATE
เป็นคำแสลงจากการออกเสียงรวมกันของ
Sk+เอจท = สเก็ต

    การเล่นสเก็ตบอร์ด อาจเป็นแฟร์ชั่นสำหรับเด็กผู้ชายหลายๆคน แต่เมื่อคุณได้เล่นมันจริงๆแล้ว คุณจะไม่สามารถตัดใจเลิกเล่นมันได้ ดังนั้นก่อนอื่นคุณต้องถามใจตัวเองก่อนว่าเล่นสเก็ตบอร์ดเพราะอะไร ถ้าพร้อมที่จะมีชีวิตอย่างอิสระ และอยากจะเล่นอย่างสนุก คุณต้องมีความจริงจังในการซ้อม เรียกได้ว่าใจต้องมาก่อน ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม โดยไม่ปล่อยให้หนึ่งวันในชีวิต สูญเสียไปอย่างไร้ค่า อาจจะเหนื่อย แต่ไม่หนักอย่างแน่นอน ถ้าใจคุณรักในสเก็ตบอร์ดกีฬาที่สามารถให้ทุกอย่างแก่คุณได้ แล้วคุณจะพบกับโลกใหม่ที่คนทั่วไปไม่เคยได้สัมผัส
    ในทัศนคติของผมเชื่อว่ากีฬาสเก็ตบอร์ดเป็นกีฬาของคนที่มีอารมณ์ศิลปิน มีโลกส่วนตัวสูง และสามารถ มองเห็นความสุขของชีวิตได้โดยที่คนทั่วไปอาจมองไม่เห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นคนพลอยได้จากการที่พวกเค้าฝึกฟังเพลง วาดรูป และเล่นดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ ทำอะไรได้เป็นเวลานานๆ อาจซ้อมวันละเป็นสิบๆชั่วโมงเลยทีเดียว จึงไม่แปลกเลยที่ทำให้กีฬาสเก็ตบอร์ดมักมาควบคู่กับวัฒนธรรมการฟังเพลงเสมอ ถ้าคุณพร้อมแล้ว ผมจะพาไปรู้จักกับโลกใหม่
...โลกแห่งศิลปะ และ สเก็ต




..........


ความเป็นมา กีฬาเสก็ตบอร์ด และกลุ่ม Z-Boy

  
 ผมจะไม่ลงข้อมูลโดยละเอียดนะครับ เป็นประวัติที่ย่อมาให้แบบเข้าใจง่าย หากต้องการรู้ลึกขนาดทราบถึงปี ค.ศ.ต่างๆ สามารถอ่านข้อมูลได้ในวิกิพีเดียครับ ในส่วนนี้ขอเล่าเพียงการกำเนิดของกีฬาสเก็ตบอร์ดที่หาอ่านไม่ได้ทั่วไป
   เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้น ในแคลิฟอเนีย ของกลุ่ม Z-Boy ที่ตั้งตามชื่อร้านขายเซิร์ฟบอร์ดของ เจฟฟ์ โฮ และ เครก สเตซี่ ร้านมีชื่อว่า Zephyr surfboard shop ใน ซานตาโมนิกา เปิดเมื่อปี 1971 พวกเขาเป็นเหล่าลูกเรือชาวประมง ที่ชื่นชอบการเล่นกระดานโต้คลื่น หรือ เซิร์ฟบอร์ด และเมื่อมีโอกาศจะหาเวลาว่าง ไปเล่นเซิร์ฟทุกครั้ง จนกลายเป็นงานอดิเรก จนรวมตัวกัน หาวิธีเล่นเซิร์ฟ บนถนนที่เป็นลอนแทนการเล่นเซริฟในช่วงที่ทะเลไม่มีคลื่น พวกเขาเริ่มผลิต สเก็ตบอร์ดขึ้นมา และ พบวิธีหาเงินได้จากของเล่นชิ้นใหม่ จนเป็นจุดเริ่มต้นของทีมสเก็ตบอร์ด Z-Boy และการกำเนิดของสเก็ต




..........

ส่วนประกอบของสเก็ตบอร์ด

     สเก็ตบอร์ดนั้นมีส่วนประกอบโดยอาศัยหลักการเดียวกับรถ ผสมกับ กระดานเซิร์ฟบอร์ด ดังนั้นการเลี้ยวแบบรถ จึงต้องอาศัยการถ่ายน้ำหนักและการขันน็อตที่พอดี ไม่แข็งและอ่อนจนเกินไป แต่ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละคน ซึ่งเมื่อเป็นผู้เล่นใหม่ส่วนมากจะขันทรัคแข็ง เพื่อความสะดวกในการฝึกซ้อมท่าออลี่ หรือ กระโดด และ การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ต้องอาศัยการไถ ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับสภาพพื้น และ แบริ่ง หรือ ลูกปืน เช่นกัน ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆเราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ถึง ประโยชน์ และ ชื่อของมัน ซึ่งมีอยู่เพียง 7 ส่วนเท่านั้น
...
...
...


1.Deck แผ่นบอร์ด ที่ทำจากไม้เมเปิ้ล เหนียวทนทาน และ มีความเด้งเมื่อสัมผัสพื้น
ขนาดขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้ และ ความถนัดของผู้เล่น แต่ผู้ที่ชินแล้วก็สามารถเล่นได้ทุกขนาด สำหรับ ผู้ต้องการเริ่มเล่น การออลี่ เป็นท่าพื้นฐานที่จำเป็นที่สุด ที่ทุกคนต้องฝึกให้ได้ ซึ่งความเคยชินของคนเราเมื่อเหยียบแผ่นครั้งแรก จะรู้สึกฝืนธรรมชาติอย่างมาก การเลือกซื้อแผ่นสำหรับฝึกนั้น จึงควรมีขนาดใหญ่ (8.0 นิ้ว) เพื่อความสะดวกในการยืน แต่ส่วนนี้เป็นเพียงส่วนที่ผมแนะนำขึ้นเองสำหรับผู้เริ่มเล่น ส่วนความถนัดและความชอบของแต่ละคน ควรเล่นบ่อยๆ และจะสังเกตุเห็นความชอบเองครับ
...
...
...

2.Truck ทรัค หรือ แกนล้อ ทำหน้าที่เหมือนเพลารถ ซึ่งมีหลายแบบ และ มีน้ำหนักที่ต่างกัน
สำหรับการฝึกออลี่ นั้น ควรเลือกทรัคที่มีน้ำหนักกลางพอดี และราคาไม่แพง เช่นของ thunder ราคาประมาณ 1500 บาทครับ เพราะการฝึกแรกเริ่ม เรามักจะหาวิธีฝึกออลี่ให้ได้ ซึ่งอาจผิดไปบ้าง จนบางครั้งทำให้ทรัคเกิดความเสียหายโดยใช่เหตุ จะได้ไม่เสียดายครับ
...
...
...
3.Wheel ล้อ มีหน้าที่ไม่ต่างจากล้อรถเลยครับ และ ก็มีคุณสมบัติความทนทานต่างกันด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่ามันใช้ได้หมดนะครับ ไม่ต้องไปเน้นยี่ห้อก็ได้ เราดูสภาพของพื้นที่เราเล่น เพราะผมยอมรับเลยว่า ผมไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับยี่ห้ออะไรเลย ขยันซ้อม ดีกว่าขยันซื้อ สำหรับผู้เล่นใหม่ มีล้อไหนใช้ล้อนั้นเลยครับ มันวิ่งได้
...
...
...

4.Bearing แบริ่ง หรือ ลูกปืน เป็นส่วนช่วยเพิ่มความเร็วของล้อครับ มีหลายเบอร์ 3 5 7 9 ซึ่งความเร็วแลกกับเงิน จำนวนมหาศาล สิ่งที่ผมเขียนอาจดูขาดความรู้ไปบ้าง แต่เพื่อแนะนำผู้เล่นใหม่ ถ้ามาตรฐานแบบ อยากซื้อ อยากเร็วอีกนิด ประมาณเบอร์ 5 ก็พอครับ 
...
...
...

5.Griptape กริ๊ปเทป หรือ กระดาษทรายวิเศษ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเล่นทริคต่างๆได้ เพราะมีหน้าที่ยึด และ เพิ่มแรงเสียดทาน ซึ่งมีผมดีกับรองเท้าหนังกลับ
...
...
...

6.Riser ไรเซอร์ รู้ไว้ ไม่ต้องซื้อ มีส่วนช่วยในการป้องกันแผ่นเป็นรอยและรอยร้าวของแผ่น อีกทั้งยังช่วยลดการกระแทกในการนำแผ่นลงบนพื้น ข้อเสียสำหรับผู้เล่นใหม่คือ แผ่นสูงขึ้น ยืนลำบาก และเตะได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงควรฝึกซ้อมท่าต่างๆให้แน่นเสียก่อน เวลาเล่นจริง ไรเซอร์จะช่วยป้องกันเส้นยึดที่ข้อเท้าจากการกระแทกแรงๆอีกด้วย
...
...
...

7.Hardware หรือ น๊อตยึดทรัค เมื่อคุณใส่ไรเซอร์ จะมีน็อตที่ยาวขึ้นกว่าปกติ จำหน่ายให้ซื้อเล่น ความหลากหลายของสี มีประโยชน์ในการ จำ nose และ tail ซึ้งแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลว่าจะใส่สีสันต์ให้สดใสสวยงามเหมือนขนมหวานก็ยังได้ สรุปมัน คือ น็อต ใส่ไปเถอะครับ

.......... 

มือถือแก้ว แต่มือ..ไม่ถือแก้ว


มือถือแก้ว แต่มือ..ไม่ถือแก้ว

พฤศจิกายน 24, 2008ใส่ความเห็นGo to comments
glassyglassy3
มีหลายคนพูดเข้าหูซีว่าอยากได้มือถือแปลกๆ ซีว่ามันเป็นเครื่องมือสำคัญของชีวิตไปแล้วจริงๆนะคะ
หลายคนหาเครื่องที่ดูเท่ห์เป็นหลักอันนี้ไม่ผิดค่ะ ใครๆก็ทำ
วันนี้ซีมีมือถือกระจกใสมาฝากค่ะ สวยมากๆ
glassyglassy-2
ตัวนี้เป็นมือถือที่ใช้กระจกหรือแก้วเป็นส่วนประกอบ จากการออกแบบไม่ระบุว่าจะมีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง
เป็นส่วนประกอบ เน้นที่ดีไซน์จริงๆค่ะ ดีไซเนอร์คือ Mac Funamizu’sให้คอนเซปต์ตัวเองว่า
“Glassy Glassy” ค่ะ
glassy-glassy-cellphone
ซีว่าดีไซน์โลกอนาคตไม่สีเงิน แบบวัสดุสะท้อนแสงก็ใสๆ ดีไซน์เรียบดูได้นาน
ก่อนหน้านี้เคยมีดีไซเนอร์ที่ขายไอเดียตัวเองคล้ายๆกันออกมาค่ะชื่อ Edge Phone แต่เป็นแก้วแค่ตรง
แพตที่สไลด์เท่านั้น
edge_phoneedge_phone4
เทียบกับไอโฟนเพื่อนๆปิ๊งแบบไหนคะ?

Rollerphone มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือสุดล้ำแห่งอนาคต


Rollerphone มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือสุดล้ำแห่งอนาคต

Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 1

ชาว Men.MThai คนไหนที่ชอบดูหนังพวกสายลับหรือแนว Sci-Fi เห็นแล้วต้องชอบแน่ๆ นี่คือ Concept ของสมาร์ทโฟนแบบใหม่ที่เรียกว่า “Rollerphone” ที่ถูกออกแบบมาในรูปลักษณ์ของนาฬิกาข้อมือสุดล้ำ กับหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาที่เป็น LED โปร่งใสสุดเท่ แถมยังยืดออกมาเพื่อใช้เป็นโทรศัพท์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ อีกมากมาย ทั้งดูหนัง ฟังเพลง แชท ฯลฯ … บางทีอนาคตก็ใกล้มากกว่าที่คาดคิดนะเนี่ย ไม่ธรรมดาจริงๆ

Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 2
Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 3
Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 4
Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 5
Rollerphone Concept มือถือสไตล์นาฬิกาข้อมือแห่งอนาคต รูปที่ 6

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

ข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอม


ข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอม

ข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอม

คนอร์ซุปหมูก้อน
หากนึกถึงข้าวต้มที่คนทั่วไปรู้จัก ก็ต้องนึกถึงข้าวต้มหมู ข้าวต้มไก่ ข้าวต้มกุ้ง แต่น้อยคนนักที่จะเคยลิ้มลองข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอม ข้าวต้มกระดูกหมูเห็ดหอมโดดเด่นกว่า ข้าวต้มชนิดอื่นตรงที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากเห็ดหอมนั่นเอง
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ3-4
  • ระยะเวลาการเตรียม10 นาที
  • ระยะเวลาการทำ30 นาที

ส่วนประกอบ

  • ข้าวสารหอมมะลิ (150 กรัม) 1 ถ้วยตวง
  • กระดูกหมู (250 กรัม) 1 ถ้วยตวง
  • รากผักชี 2 ราก
  • คนอร์ซุปหมูก้อน 3 ก้อน
  • ตังฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ลิตร
  • กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง 10 ดอก
  • กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายซอย และพริกไทยป่น สำหรับโรยหน้าตามชอบ

วิธีทำ

  • นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด หลังจากนั้นใส่กระดูกหมู กุ้งแห้ง และรากผักชีลงไปในหม้อ เมื่อหมูสุกให้ช้อนฟองทิ้ง
  • นำคนอร์ซุปหมูก้อนและตังฉ่ายใส่ลงไปในหม้อ ต้มด้วยไฟอ่อนจนหมูสุกนุ่ม
  • นำข้าวสารไปล้างให้สะอาด แล้วใส่ลงในหม้อ ต้มจนเดือด ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้ ต้มต่อจนข้าวเริ่มสุกประมาณ 8-10 นาที
  • นำต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายซอย กระเทียมเจียว และพริกไทยป่นโรยหน้าตามชอบพร้อมเสิร์ฟ

สูตรทำ ข้าวเกรียบ


สูตรทำ ข้าวเกรียบ

 
"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"
 




ช่วงนี้ workdeena มีงานสังสรรบ่อยๆ และเราสังเกตว่า บนโต๊ะอาหารมีอาหารอย่างหนึ่ง ที่เห็นบ่อยครั้งและทุกคนก็ยิบทานกันมากพอสมควร คือ "ข้าวเกรียบ" และ workdeena ก็ชอบทานเหมือนกัน เลยอยากนำมาเป็นอาชีพอิสระในวันนี้



 


การทำข้าวเกรียบ

เรามาดูส่วนผสมกัน
 
  1. กุ้ง (หรือ ปลา ฟักทอง ปลาหมึก เห็ด ฯลฯ อะไรก็ได้) 1/2 กิโล
  2. แป้งมัน 2 1/2 กิโล
  3. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียม (เอาเปลือกออก) 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำ


วิธีทำ
  • ทำความสะอาดกุ้ง เอาเนื้อกุ้งไปโขลกหรือปั่นให้ละเอียด เติมเกลือ เติมน้ำ พริกไทย กระเทียม(ที่ปั่นหรือโขลกแล้ว) แล้วปั่นอีกครั้งจนละเอียดและเข้ากันดี
  • นำส่วนผสมที่ได้จากการปั่น ไปเทคลุกเคล้ากับแป้งมัน และแป้งสาลี แล้วนวดให้เข้ากันประมาณ 30-40 นาที
  • จากนั้นเราก็ ปั้นให้เป็นแท่งยาว สัก 5-6 แท่ง
  • แล้วนำไปใส่ลังถึง นึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง (ดูให้มันสุก)
  • เมื่อสุกแล้ว เราก็ยกลงมาทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นเราก็หั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง พอแห้งแลัวเราก็นำมาทอดขายได้เลย

-สูตรนี้ เพื่อนๆ ลงทุนไม่เกิน 150 บาท สามารถได้ทำข้าวเกรียบได้ประมาณ 2 1/2 กิโล ราคาขายประมาณกิโลละ 100 บาท(หรือมากกว่านั้น หมายถึงขายส่งแบบยังไม่ทอดนะ) หรือถ้าเพื่อนทอดขายส่งตามร้านค้าก็จะได้กำไรมากขึ้นอีก

ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร



ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร
พาหนะแห่งพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ 
เรื่องโดย : วิยะดา ทองมิตร / นิตยสารสารคดี
ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร
( ภาพที่มา : http://travel.kapook.com/view5329.html )

ในภาษาสันสกฤต เรียก ช้างเอราวัณ ว่า ไอราวต ไอราวณ ภาษาบาลีเรียก เอราวณ ส่วนในภาษาไทยเรียกว่า ไอราพต ไอราวัต ไอราวัณ และ เอราวัณ ชื่อต่าง ๆ ทั้งหมดนี้มีความหมายถึง น้ำ เมฆฝน รุ้ง แปลรวมว่า กลุ่มก้อนเมฆที่มีฟ้าแลบ และทำให้เกิดฝนตก โดยมีความสอดคล้องที่ว่า พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณท่องเที่ยวไปบนสวรรค์แล้วทรงโปรยฝนให้ตกลงมายังโลก

บางตำนาน
ก็ว่า พระอิศวรได้ประทานช้างเอราวัณให้เป็นช้างทรงของพระอินทร์ บ้างก็ว่าช้างเอราวัณนั้นเป็นเทพบุตร อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระอินทร์จะเสด็จไปที่ใด เทพบุตรเอราวัณจะแปลงกายเป็นช้างเผือกสีขาว ชื่อว่า เอราวัณ และบ้างก็ว่าช้างที่มาฆมานพใช้ในการสร้างศาลาบนมนุษย์โลกนั้น เมื่อตายไปได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรเอราวัณและคอยเนรมิตกายเป็นช้างทรงของพระ อินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เอราวัณ 
เป็นช้างที่มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนภูเขา ผิวกายเผือกผ่องเมื่อเทียบกับภูเขาไกลาสซึ่งเป็นภูเขาเงิน ภูเขานั้นจะมีสีหมองคล้ำลง เป็นช้างที่มีพลังมาก เป็นเจ้าแห่งช้างทั้งหลาย ในคัมภีร์มหาภารตะกล่าวว่า

"ช้างไอราวตะมีงา ๔ งา มี ๓ งวง รูปร่างใหญ่มหึมา และเป็นช้างเผือก"

ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร

ในไตรภูมิพระร่วงได้พรรณนาถึงความใหญ่โตโอฬารของช้างเอราวัณไว้อย่างละเอียดดังนี้คือ

...และว่ายังมีเทพยดาองค์ ๑ ชื่อ ไอยราวรรณเทพบุตร ผิแลเมื่อพระอินทร์เจ้าแลมีที่สเด็จไปเล่นแห่งใดๆ ก็ดี แล ธ จะใคร่ขี่ช้างไปเล่นจึงไอยราวรรณเทพบุตรก็นิมิตรตัวเป็นช้างเผือกตัว ๑ ใหญ่นักโดยสูงได้ ๑,๒๐๐,๐๐๐ วา แลมีหัวได้ ๓๓ หัวๆ น้อยๆ อยู่สองหัวอยู่สองข้าง นอกหัวทั้งหลายนั้นแลว่าหัวใหญ่ได้ ๒,๐๐๐ วา แลหัวถัดเข้าไปทั้งสองข้างแลหัวแล ๓,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้าไปแลหัวแล ๔,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้าไปแลหัวแล ๕,๐๐๐ วา ถัดนั้นเข้ากว้างแลหัวแล ๖,๐๐๐ วา เร่งเข้าไปเถิงในก็เริงใหญ่ตัดกันเข้าไปดังกล่าวนี้แล ส่วนหัวอันใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทั้งหลายชื่อ สุทัศ เป็นพระที่นั่งแห่งพระอินทร์โดยกว้างได้ ๒,๔๐๐,๐๐๐ วาแลฯ เหนือหัวตัวนั้นแลมีแท่นแก้วหนึ่งกว้างได้ ๙๖,๐๐๐ วา แลมีปราสาทกลางแท่นแก้วนั้นมีทั้งสองแก้วฝูงนั้นโดยสูงได้ ๘,๐๐๐ วา ทั้งฝูงนั้นเทียรย่อมแก้ว ๗ สิ่ง แลมีพรวนทองคำห้อยย้อยลงทุกแห่งแกว่งไปมา แลมีเสียงนั้นไพเราะนักหนาดังเสียงพาทย์พิณในเมืองฟ้า ในปราสาทนั้นเทียรย่อมดัดเพดานผ้าทิพย์แลมีแท่นนอนอยู่ในที่นั้นกว้างได้ ๘,๐๐๐ วา แลมีราชอาสน์หนาหมอนใหญ่หมอนน้อย หมอนอิง องค์พระอินทร์นั้นสูงได้ ๖,๐๐๐ วา แลประดับนี้ด้วยแก้วถนิอาภรณ์ทั้งหลายแล ธ นั่งเหนือแท่นแก้วนั้น หัวช้างได้ ๓๓ หัวไส้ พระอินทร์ให้เทพยดาทั้งหลายขี่ ๒๒ หัวนั้น มีบุญเพียงประดุจพระอินทร์ไส้ฯ อันว่าหัวช้างทั้ง ๓๓ หัว แลหัวๆ มีงา ๗ อันแลงาแต่ละอันยาวได้ ๔๐๐,๐๐๐ วา แลงานนั้นมีสระได้ ๗ สระๆ แลสระนั้นมีบัวได้ ๗ กอๆ บัวแลกอนั้นมีดอก ๗ ดอกๆ แลอันนั้นมีกลีบ ๗ กลีบๆ แลอันๆ มีนางฟ้ายืนรำระบำบรรพต แล ๗ คน แลนางแลคนๆ นั้นมาสาวใช้ได้ ๗ คนโสด...

กล่าวโดยสรุป ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีขนาดใหญ่มาก ผิวกายสีขาว มีหัว ๓๓ หัว แต่ละหัวมีงาเจ็ดงา แต่ละอันยาวสี่ล้านวา แต่ละงามีสระโบกขรณีเจ็ดสระ แต่ละสระมีกอบัวเจ็ดกอ แต่ละกอมีดอกบัวเจ็ดดอก แต่ละดอกมีกลีบเจ็ดกลีบ แต่ละกลีบมีเทพธิดาฟ้อนรำอยู่เจ็ดองค์ แต่ละองค์มีบริวารอีกเจ็ดนาง รวมได้ว่า ช้างเอราวัณมี ๓๓ หัว มีงา ๒๓๑ งา มีสระบัว ๑,๖๑๗ สระ มีกอบัว ๑๑,๓๑๙ กอ มีดอกบัว ๗๙,๒๓๓ ดอก กลีบบัว ๕๕๔,๖๓๑ กลีบ เทพธิดา ๓,๘๘๒,๔๑๗ องค์ และบริวารของเทพธิดาอีก ๒๗,๑๗๖,๙๑๙ นาง

บทบาทและหน้าที่อันสำคัญยิ่งของช้างเอราวัณ คือ เป็นพาหนะที่นำเสด็จพระอินทร์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งบนสวรรค์และมนุษย์โลก เพื่อดูแลทุกข์สุขของชาวโลก เป็นช้างศึกให้พระอินทร์ออกไปทำการรบกับพวกอสูร ทำหน้าที่ดูแลโลกทางด้านตะวันออกควบคู่กับพระอินทร์ และเนื่องจากพระอินทร์ทรงเป็นหัวหน้าเทพที่กำกับดูแลดินฟ้าอากาศ มีวัชระสายฟ้าเป็นอาวุธ เป็นศัตรูกับความแห้งแล้ง นำความอุดมสมบูร์และความชุ่มฉ่ำสู่โลกมนุษย์ ช้างเอราวัณจึงมีหน้าที่ดูดน้ำจากโลกขึ้นไปบนสวรรค์ ให้พระอินทร์บันดาลให้เกิดน้ำจากฟ้าตกลงสู่โลกมนุษย์ โดยเฉพาะประเทศทางเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงประทับใจและชื่นชมในตัวช้างเอราวัณที่ทำประโยชน์ให้แก่ชาวโลก

ช้างเอราวัณ
 ถือว่าเป็นเจ้าแห่งช้างทั้งปวงในสากลจักรวาล เป็นพาหนะคู่พระทัยของพระอินทร์ ด้วยเหตุนี้ช้างเอราวัณจึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของพระอินทร์ สัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ในงานศิลปกรรมต่าง ๆ จึงนิยมทำรูปช้างเอราวัณควบคู่ไปกับพระอินทร์ หรือบางทีก็ทำแต่เพียงรูปช้างสามเศียรอันเป็นสัญลักษณ์ของช้างเอราวัณเท่า นั้น เหตุที่ทำเป็นรูปช้างสามเศียรแทน ๓๓ เศียรนั้นคงเป็นเพราะรูปแบบทางด้านศิลปะน่าจะมีความงดงามลงตัวมากกว่า